ความเคลื่อนไหวในไทยแลนด์ ยุค 4.00

ความเคลื่อนไหวในไทยแลนด์ ยุค 4.00

Palmaïa, The House of AÏA สถานที่พักผ่อนริมหาดสุดหรูใน Riveria Maya เปิดบ้านต้อนรับแขก ด้วยโปรแกรมแบบองค์รวมไม่ซ้ำใคร พร้อมกิจกรรมดนตรีที่มุ่งสร้างความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้ง

รีสอร์ทริมหาดสร้างใหม่แห่งล่าสุด

พร้อมมอบการเข้าพักสุดโดดเด่น 
ด้วยโปรแกรมอันน่าดื่มด่ำ
และการยึดมั่นในหลักของความยั่งยืน
พลายาเดลคาร์เมน, เม็กซิโก--9 ม.ค.-

วันนี้ Palmaïa, The House of AïA ขอเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมาร่วมสัมผัสความงดงามตระการตาของ Riviera Maya พร้อมดื่มด่ำไปกับวิถีธรรมชาติ ความสุขของชีวิต และจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ ในภูมิภาคที่เรียงรายไปด้วยรีสอร์ทและโรงแรมแห่งนี้ Palmaïa นับได้ว่ามีความโดดเด่นเหนือกว่าที่อื่นๆ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอยู่ระหว่างหาดทรายสีขาวงดงามกับปล่องน้ำพุเย็นบริเวณชายป่าอันแสนสงบ พร้อมกิจกรรมที่ออกแบบมาให้ผู้มาเยือนได้สำรวจและก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซนของการใช้ชีวิตตามปกติประจำวัน

 Alexander Ferri ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและอยู่เบื้องหลัง Palmaïa ออกแบบประสบการณ์การพักผ่อนในรีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นมาตามวิถีชีวิตของเขาเอง ด้วยความเชื่อที่ว่าการสำรวจจิตใจภายในและเคารพในธรรมชาติ ตลอดจนวิถีชุมชนนั้น เป็นกุญแจสำคัญที่จะผลักดันให้ทุกคนร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย รีสอร์ทนี้จึงเป็นสถานที่ที่ผู้เข้าพักจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากพิธีกรรมต่าง ๆ และความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งที่ถูกสร้างขึ้นที่นี่

หนึ่งในสุดยอดประสบการณ์ที่ผู้มาเยือนจะได้รับ ก็คือ โปรแกรม Architects of Life ซึ่งดำเนินการโดย ShamanBalder ของรีสอร์ท ผู้ซึ่งจะร่วมมือกับวิทยากรและไกด์รับเชิญเพื่อพาแขกไปสัมผัสกับพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีคาเคา โยคะ การบำบัดด้วยการสั่นสะเทือนของเสียง การทำสมาธิ พิธีกรรมเพาะปลูก ตลอดจนวิถีปฏิบัติตามแบบโบราณที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการคิดใคร่ครวญ การสำรวจ และความเชื่อมโยงทางจิตใจ
นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรม Rituals of Sound ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความดื่มด่ำไปกับบรรยากาศทางดนตรีของเมือง Tulum และ Mykonos ในรูปแบบผ่อนคลายสบาย ๆ สำหรับแขกที่มาพักในรีสอร์ทนี้เท่านั้น โดย Palmaïa จะเปิดเวทีให้เหล่านักดนตรีผู้เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์มานำพาแขกเหรื่อดื่มด่ำไปกับจังหวะดนตรีอันแสนนุ่มลึกและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีกลิ่นอายความเป็นอะคูสติก ในกิจกรรมดนตรีที่จะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน เพื่อให้แขกทุกวัยได้เพลิดเพลินไปกับการตระหนักรู้อย่างสนุกสนาน

“กลุ่มผู้คิดแหวกแนวและผู้ที่ต้องการหาคำตอบทางจิตวิญญาณเริ่มมารวมตัวกันมากขึ้นในชุมชนเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก เพื่อเชิดชูความคิดสร้างสรรค์ ดนตรี และสิ่งแวดล้อม โดยพวกเขากำลังร่วมกันสร้างความตระหนักรู้แบบสมัยใหม่ขึ้นมา และ Palmaïa ก็ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสถานที่ของรวมตัวเช่นนั้น ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนริมหาดธรรมชาติแห่งเดียวในปัจจุบันที่มีวิถีคิดแบบก้าวหน้า และเป็นสถานที่อันปลอดภัยที่เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกภายในขอบเขตของสังคมสมัยใหม่นี้” Ferri กล่าว
Palmaïa เป็นสถานที่ที่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเลแคริบเบียนหรือป่าริมทะเล โดยมีห้องพักริมหาดที่มีระเบียงส่วนตัวพร้อมวิวทะเลแคริบเบียนทั้งหมดเจ็ดรูปแบบ รวมทั้งห้องพักสำหรับครอบครัวพร้อมเตียงสองชั้นสำหรับเด็ก ห้องพักแบบอื่น ๆ สำหรับผู้ใหญ่ ตลอดจนห้องพักที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำไร้ขอบหนึ่งในสี่แห่งของรีสอร์ท และห้องพักที่อยู่ท่ามกลางป่าริมทะเล ซึ่งล้วนได้รับการออกแบบมาอย่างยั่งยืนและไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ จากสัตว์ ผู้เข้าพักแต่ละคนจะมีไกด์ประจำตัวตลอดการพักผ่อนครั้งนี้ และสำหรับพ่อแม่ที่พาลูกๆ มาด้วย Palmaïa ยังมีโปรแกรมกิจกรรมความสนุกแบบองค์รวมซึ่งจัดโดย Wardorf Educators ที่มีใบรับรองมาตรฐานเป็นเครื่องการันตี

ระหว่างการเข้าพัก แขกจะสามารถรับประทานอาหารในร้านอาหารสี่แห่ง พร้อมใช้บริการรถขายอาหารหรือฟู้ดทรัคที่สลับสับเปลี่ยนเมนูกันไป โดยอาหารทุกเมนูที่เสิร์ฟทั้งในร้านและฟู้ดทรัคล้วนใช้วัตถุดิบที่มาจากฟาร์มและผู้ประกอบกิจการประมงที่เชื่อถือได้ทั่วเม็กซิโก ภายใต้การดูแลของเชฟใหญ่ Eugenio Villafaña ผู้ผ่านการฝึกฝนทักษะการเป็นเชฟและคิดค้นเมนูในร้านอาหารระดับดาวมิชลินหลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมี เมนูจากผักสุดพิเศษที่ไม่เคยมีเสิร์ฟที่ไหน ๆ ใน Riveria Maya และอุตสาหกรรมโรงแรมทั่ว ๆ ไปมาก่อน จากฝีมือการรังสรรค์ของ Mauricio Alvarez ผู้เชี่ยวชาญด้านปรุงอาหารจานผักที่เคยทำงานในร้าน Noma คอยบริการให้ได้ลิ้มลองด้วย

LEK ร้านอาหารสุดหรูที่จะให้บริการอาหารเม็กซิกันชั้นเยี่ยม ในขณะที่ร้าน Mar de Olivio ให้บริการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่แปลกใหม่ ด้านร้านอาหารตะวันออกแบบฟิวชั่น Ume จะให้บริการอาหารไทยและอาหารภาคพื้นทวีป เพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบอาลาคาร์ทที่มีไฮไลท์อยู่ที่กลิ่นอันเย้ายวน รสชาติที่ไม่ธรรมดา และสีสันที่จัดจ้าน ส่วน Su Casa นั้นเป็นบาร์และร้านอาหารริมหาดบนเนินทรายมีบรรยากาศสไตล์หาดแคริบเบียนและหาดทรายนุ่มสบายเท้า และสุดท้ายร้าน El Caminante จะมามอบประสบการณ์ฟู้ดทรัคด้วยเมนูที่สลับหมุนเวียนกันไป
นอกจากนี้ ยังมี Eolo Beach Club ให้บริการดนตรีสดโดยศิลปินจากภายนอก พร้อมบาร์ริมสระสองบาร์รอเสิร์ฟค็อกเทลผลไม้และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของแขกแต่ละคน ทั้ง Atlas Club ที่มีเครื่องดื่มคอยให้บริการอยู่ตลอดจนถึงช่วงกลางดึก และ Health Cafe สถานที่ที่ให้แขกได้ผ่อนคลายในบรรยากาศแบบเมืองสมัยใหม่สไตล์ลอฟท์ไปพร้อม ๆ กับการจิบชาเขียวลาเต้และรับประทานขนมปังปิ้งหน้าอโวคาโดควบคู่กันไป

รีสอร์ทนี้ยังมีสปาสไตล์ป่า Atlantis พร้อมตัวเลือกการทำพิธีกรรมแบบโบราณอย่าง Temazcal คอยให้บริการด้วย โดยผู้มาใช้บริการสปาแห่งนี้จะได้รับการแนะนำจากหนังสือเก้าเส้นทางสู่วิถีเพื่อสุขภาพ (Book of Nine Paths to Health) ซึ่งออกแบบมาเพื่อบำบัดอารมณ์ที่เป็นสาเหตุของความเจ็บปวดทางกายภาพ ในห้องบำบัดที่มีหน้าต่างสูงจรดเพดาน พร้อมวิวธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างปล่องน้ำพุที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรมต่างๆ และการทำสมาธิ รวมถึงศูนย์ออกกำลังกายกลางบรรยากาศป่าริมทะเล

Palmaïa ยึดหลักปรัชญาที่ว่าการเจริญเติบโตภายในจิตใจเป็นเส้นทางสู่การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ จึงถูกออกแบบมาไม่ให้รบกวนภูมิทัศน์ดั้งเดิมของธรรมชาติ โดยยึดหลักการเรื่องความยั่งยืนเป็นสำคัญและมุ่งเป็นรีสอร์ทที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์แห่งแรกในโลกภายในปี 2021 ด้วยการใช้พลังงานทั้งหมดจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งไว้ในรีสอร์ทและพื้นที่อื่น ๆ ในเม็กซิโก ขณะเดียวกัน แขกผู้เข้าพักก็ไม่มีทางที่จะพบเห็นขวดพลาสติกภายในรีสอร์ทแห่งนี้ เพราะเครื่องใช้ในห้องน้ำจะเป็นแบบ refill และทำจากส่วนประกอบมาจากธรรมชาติทั้งหมด รวมถึงน้ำมันหอมระเหยที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ 100%

Palmaïa เป็นชุมชนแห่งการให้ และจะให้บริการทุกอย่างที่แขกต้องการครอบคลุมอยู่ในราคาค่าที่พักที่พวกเขาจ่าย ด้วยเหตุนี้ แขกผู้เข้าพักจึงสามารถเข้าถึงบริการทุกอย่างได้อย่างไม่มีข้อจำกัด และไม่จำเป็นต้องกังวลถึงคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด โดยราคาในช่วงเปิดตัวจะเริ่มต้นที่ 600 เหรียญต่อคนต่อคืน สำหรับผู้สนใจต้องการจองห้องพักหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Palmaïa, The House of AÏA กรุณาติดต่อทางอีเมล contact@thehouseofaia.com หรือทาง www.thehouseofaia.com และ @thehouseofaia
 Palmaïa, The House of AïA, An Exclusive New Beach Enclave In The Riveria Maya, Welcomes Guests With One-Of-A-Kind Holistic Programs And Deep Connecting Music Rituals
The newly constructed ocean-front resort delivers a distinctive retreat through immersive programming and an ethos of sustainability

PLAYA DEL CARMEN, Mexico, Jan. 9, 2020 -- Today, Palmaïa, The House of AïA, invites guests to celebrate the complexity of the Riviera Maya while reconnecting with nature, the sanctity of life, and the true human spirit. In a region dotted with resorts and hotels, Palmaïa stands apart with its location between a pristine white sand beach and cool-water cenotes on the cusp of the undisturbed jungle, and thoughtful programming created for guests to explore and step outside their usual comfort zones.

The founder and visionary behind Palmaïa, Alexander Ferri, designed the resort experience after his own way of living, with the belief that inner exploration and respect for nature and community is key to bringing people together to create meaningful change. The resort is a place where visitors can seek personal growth through the property's curated rituals and deep connecting ceremonies.
One of the jewels of the experience is the Architects of Life program led by the in-house ShamanBalder. Alongside hand-selected visiting teachers and guides, Balder will lead guests through rituals such as cacao ceremonies, yoga, multi vibrational sound healing, meditation, plant ceremonies, and ancient practices that inspire reflection, exploration, and connection.

The resort will also feature a Rituals of Sound program that pays homage to the music environment of Tulum and Mykonos, but in a more exclusive relaxed setting available only to guests. Palmaïa will become a stage for creative experimental musicians who will transport guests through curated deep beats, and deep-fusion electronic music with acoustic overlays. These music rituals will take place in various forms daily from 4 p.m. until midnight allowing all ages to enjoy some conscious fun.
"There is a growing community of unconventional thinkers and spiritual seekers that gather in small communities around the world to embrace creativity, music and the environment. Together we are creating a new modern collective consciousness," said Ferri. "Palmaïa was designed to be one of these gathering points, and currently the only natural, forward thinking beach enclave of its kind. A safe place where we can create positive change within the boundaries of modern society."
Perfectly matched to its surroundings of the Caribbean Sea and jungle, Palmaïa offers travelers all oceanfront suites, each with its own private terrace for views of the Caribbean ocean in seven distinctive layouts. They include suites for families with bunk-bedding for children as well as open plan suites for adults, suites with swim-out access to one of the hotel's four infinity pools; and suites nestled among the ocean-side jungle - all designed sustainably and without the use of animal products. A Nomadic Guide will be assigned to each traveler to attend to guests needs throughout the stay, and for parents, Palmaïa operates the only holistic fun children's activities program in hospitality run by certified Waldorf Educators.

While on property, guests can dine from a selection of four restaurants along with a rotating food truck, each serving ethically sourced food from trusted farms and fisheries around Mexico. Executive Chef Eugenio Villafaña, who has trained at numerous Michelin-starred restaurants, oversees the culinary programming. This includes creating parallel plant-based menus for each dining venue, a unique culinary offering in Riviera Maya and throughout the hospitality industry. Leading the plant-based dining programming is Noma alumni, Mauricio Alvarez.

The signature fine-dining restaurant LEK serves gastronomic Mexican; Mar de Olivio is a destination for redefined Mediterranean cuisine; and the Oriental-fusion restaurant Ume merges Thai and Continental cuisines for à la carte dinner experiences highlighting sensual fragrances, exotic flavors, and densely rich hues. Su Casa, an integrated beach bar and restaurant on the dunes offers a laid-back Caribbean beach ambiance, with toes-in-the-sand comforts while El Caminante, offers an authentic food truck experience with a daily rotating menu.

Eolo Beach Club plays beats by visiting sound artists, twopool bars serve fresh fruit cocktails and custom creations based on guests' mood, and the exclusive Atlas Club creates libations late into the night and houses a Health Café where guests can relax in a more modern city loft environment while sipping matcha lattes and snacking on avo-toasts.

The resort also includes a jungle spa, Atlantis, where ancient ceremonies like the storied Temazcal are included in the menu of services. At Atlantis, one is guided by the Book of the Nine Paths to Health, designed to treat emotions as root causes rather than physical pain. Treatment rooms feature floor to ceiling windows that look out onto the foliage and are immersed between natural cenotes used for rituals and meditation. The fitness center is also hidden in the jungle.

Guided by the philosophy that personal growth is the path to connect with Nature, Palmaïa was conceptualized without disturbing the original landscape of nature. The resort was designed with sustainability in mind and strives to become one of the first true carbon-neutral properties in the world in 2021 by compensating the energy Palmaïa uses by building solar panels on the resort and in other parts of Mexico. Additionally, guests will not find plastic water bottles on property and all bathroom amenities will be refillable and made with 100% biodegradable ingredients and essential oils.

PalmaÏa is a gifting community, and will provide everything guests need in the cost of a stay, so guests can enjoy unrestricted access without the hassle of exchanging currency. Opening rates start at $600 per person per night. For reservations and information about Palmaïa, The House of AïA, please email contact@thehouseofaia.com or visit www.thehouseofaia.com and @thehouseofaia. 

ไม่มีความคิดเห็น

รูปภาพธีมโดย graphixel. ขับเคลื่อนโดย Blogger.