เซ็นทรัล รีเทล ชู “Green & Sustainable Retail” เป็นค้าปลีกแรกของไทย ตอกย้ำองค์กรต้นแบบเพื่อความยั่งยืน
CRC ReNEW เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทุกมิติของกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 พร้อมทั้งเป้าหมายในระยะสั้น ภายในปี 2573 ดังนี้
1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30% (Reduce Greenhouse Gases)
2. สร้างรายได้ให้กับชุมชน 5,400 ล้านบาทต่อปี (Navigate Well-being Society)
3. ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% (Eco-friendly Packaging)
4. บริหารจัดการขยะและลดปริมาณขยะอาหาร 30% (Waste Management)
โดยการที่จะบรรลุเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวดังกล่าว เซ็นทรัล รีเทลได้ ชู 4 แนวทางปฏิบัติ ภายใต้กลยุทธ์ CRC ReNEW ที่ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด และจะยกระดับในการดำเนินการดังต่อไปนี้
1. Reduce Greenhouse Gases ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้
• เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาศูนย์การค้าและร้านค้าทั้งในไทยและเวียดนาม ซึ่งจะทำให้เซ็นทรัล รีเทล นำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดได้ถึง 30 % ภายในปี 2569
• เปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Low carbon logistic โดยเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) ในการขนส่งสินค้า
• ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน (Energy saving technology) ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ตู้เย็นประหยัดพลังงาน (Energy Efficient Chiller) สามล้อพลังงานไฟฟ้า
• ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ติดตั้งสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Charging Station) สำหรับลูกค้าในศูนย์การค้าทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม
• ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า (No Deforestation) โดยพิจารณาไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์และ suppliers หรือผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทาน
2. Navigate Society Wellbeing สร้างสังคมให้น่าอยู่ เซ็นทรัล รีเทล มุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำ เป็นผู้นำในการสร้างความเท่าเทียมและสนับสนุนความหลากหลายในสังคม ผ่านการจ้างงานและสร้างอาชีพให้คนพิการ ในปี 2564 จำนวนทั้งสิ้น 438 คน และส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิิจชุุมชนหรือท้องถิ่น และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านโครงการจริงใจ Farmers’ Market ที่ครอบคลุม 24 จังหวัด ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว 24,000 ราย กว่า 624 ชุมชน 6,620 ครัวเรือน ส่งผลให้รายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 3 เท่า และสร้างรายได้ให้เกษตรกรต่อปีกว่า 220 ล้านบาท
ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะยกระดับชุมชนและสังคมไทยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
3. Eco-friendly Packaging ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้
• ต่อยอดแคมเปญ Love the Earth เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Green Product ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุรีไซเคิล วัสดุจากธรรมชาติ หรือวัสดุคุณภาพที่ใช้ได้ทนทาน ทดแทนการใช้วัสดุสิ้นเปลือง และบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมถึงลดการสร้างขยะพลาสติก โดยในปี 2564 ลดการใช้ถุงพลาสติกได้รวม 160 ล้านใบ
• เพิ่ม Tops Green ร้านค้ารูปแบบใหม่ที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผัก ผลไม้ โดยเปิดสาขาแรกแล้วที่เชียงใหม่
4. Waste Management การจัดการขยะมูลฝอย ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ การเผา การก่อมลพิษและรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้
• ลดปริมาณการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะอาหาร (Food Waste) ตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการส่งต่ออาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้ให้แก่กลุ่มเปราะบาง และจัดการขยะอาหารโดยการทำปุ๋ยหมักและผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ในชุมชน
• ยกระดับการจัดการขยะพลาสติกกับโครงการ ‘ขวดเปล่า ไม่สูญเปล่า’ ให้สามารถนำขวดพลาสติก PET กลับมาใช้ใหม่ และแปรรููปเป็นผลิิตภััณฑ์์ ซึ่งสามารถสร้้างงานและรายได้้ให้้กับชุุมชน
• ยกระดับโครงการ Journey to Zero รณรงค์ลดขยะเหลือศูนย์ ส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกให้กับลูกค้าและพนักงานในการลด การใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ จัดให้มีจุดทิ้งขยะคัดแยก และส่งเสริมให้นำวัสดุหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
“เซ็นทรัล รีเทล เริ่มต้นจากการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร และ Mindset ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบ ESG ให้กับพนักงานทุกระดับ พร้อมสอดแทรกเข้าไปในทุกกระบวนการทางธุรกิจ เราได้วาง Road map ในระยะยาว เพราะการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องใช้เวลาในการทำอย่างต่อเนื่อง และอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญในการส่งต่อเจตนารมณ์นี้ไปยังผู้บริหารรุ่นต่อ ๆ ไป และเราจะเป็นกำลังสำคัญในการทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อส่งมอบโลกที่น่าอยู่ให้กับคนเจนเนอเรชั่นต่อ ๆ ไป” นายญนน์ กล่าวปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น